HubSpot และ LinkedIn เพิ่งเปิดเผยผลสำรวจ (Online Survey) ที่ทำโดย Milieu Insight (survey platforms) เกี่ยวกับการใช้การตลาดดิจิทัลของบริษัทในเอเชีย รวมถึงสิงคโปร์ การสำรวจวิจัยการตลาดนี้ดูว่าบริษัทใช้การตลาดดิจิทัลอย่างไร และจะปรับปรุงวิธีการเพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างไร?
ผลสำรวจพบว่า 84% ของบริษัทในสิงคโปร์ใช้การตลาดดิจิทัลโฆษณาสินค้าและบริการ โดย 78% มีแผนการตลาดดิจิทัลอยู่แล้ว ส่วนบริษัทที่ยังไม่มี 57% วางแผนจะทำในอนาคต แต่มีปัญหาคือ หลายบริษัทยังวัดผลการทำการตลาดดิจิทัลไม่ได้ดีพอ มีแค่ 17% ที่เชื่อว่าการทำการตลาดดิจิทัลที่ดีจะช่วยเพิ่มรายได้ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในเอเชียที่ 41% มาก
สาเหตุหลักคือ บริษัทในสิงคโปร์ใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ระบบจัดการลูกค้า (CRM) น้อยเกินไป มีแค่ 41% ที่ใช้ CRM ซึ่งน้อยที่สุดในบรรดาประเทศที่สำรวจ นอกจากนี้ 24% ของบริษัทไม่มั่นใจว่าทีมของตนใช้เครื่องมือการตลาดดิจิทัลเป็น และ 49% คิดว่าแผนการตลาดของตนไม่ได้ช่วยให้บรรลุเป้าหมายบริษัทในปี 2023
แมตต์ ทินเดล จาก LinkedIn บอกว่า นักการตลาดในสิงคโปร์ต้องพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงเร็ว การเรียนรู้ทักษะใหม่จะช่วยให้ปรับตัวและใช้เทคโนโลยีใหม่ได้ดีขึ้น
เรื่องการวัดผล 52% ของบริษัทในสิงคโปร์ดูที่การรู้จักแบรนด์เป็นหลัก ต่างจากที่อื่นในเอเชียที่ดูที่ยอดขายหรือรายได้
ทินเดลยังบอกว่า 60% ของบริษัทกำลังใช้ AI ในการตลาดดิจิทัล เขาแนะนำให้ใช้เครื่องมือวัดผลที่ดี เช่น รายงานรายได้ของ LinkedIn เพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด
แบบสำรวจ และแบบสอบถาม แสดงผลว่าแนวโน้มการใช้การตลาดดิจิทัลจะยังเติบโตในปี 2024 โดย 35% ของบริษัทในสิงคโปร์ใช้เงินมากกว่า 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน และ 28% ใช้เงิน 21-40% ของงบการตลาดกับการตลาดดิจิทัล
ในสิงคโปร์ โซเชียลมีเดีย (62%) การทำคอนเทนต์ (50%) และการทำ SEO (49%) เป็นช่องทางสำคัญที่สุด ซึ่งตรงกับผลวิจัยของ HubSpot ที่พบว่าคนนิยมใช้โซเชียลมีเดียในการช้อปปิ้งและรู้จักแบรนด์ นักการตลาด 9 ใน 10 คนคิดว่าคนสิงคโปร์จะซื้อของและค้นหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียมากขึ้นในปี 2024
การตลาดผ่านโซเชียลมีเดียได้งบมากที่สุด (23%) และเครื่องมือจัดการโซเชียลมีเดียก็เป็นที่นิยมที่สุด (51%) ซึ่งสอดคล้องกับการที่คนสิงคโปร์ 85% ใช้โซเชียลมีเดีย ทำให้สิงคโปร์เป็นอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการใช้โซเชียลมีเดีย
แคท วอร์บอยส์ จาก HubSpot แนะนำว่าแบรนด์ควรใช้หลายช่องทางร่วมกัน เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ใช้ 3-5 ช่องทางในการซื้อของ และควรใช้ CRM เพื่อวัดผลการตลาดให้แม่นยำ วิธีนี้จะช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้ดีขึ้นในทุกช่องทาง
เธอยังเน้นว่าควรใช้ Conversion APIs และ CRM ที่ทำงานร่วมกันได้ เพื่อติดตามและวัดผลการตลาดบนโซเชียลมีเดียให้ดี โดยเฉพาะเมื่อคุกกี้แบบเก่ากำลังจะหมดไป วิธีนี้จะช่วยให้นักการตลาดทำแคมเปญที่ตรงกลุ่มเป้าหมายและวัดผลตอบแทนได้ชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ วอร์บอยส์ยังแนะนำให้บริษัทใช้เครื่องมืออื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ระบบจัดการลูกค้า (CRM) และระบบส่งอีเมลการตลาด ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่บริษัทสิงคโปร์รองจากเครื่องมือจัดการโซเชียลมีเดีย การใช้เครื่องมือเหล่านี้ร่วมกับแผนการตลาดที่ดีจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
เธอเน้นย้ำว่า เมื่อช่องทางดิจิทัลมีมากขึ้น สิ่งสำคัญคือต้องจัดการข้อมูลลูกค้าให้ดี ไม่ให้กระจัดกระจายอยู่ในหลายที่ การใช้ Conversion APIs จะช่วยให้แบรนด์ติดตามและวัดผลการตลาดบนโซเชียลมีเดียได้แม่นยำขึ้น แม้ว่าจะมีการควบคุมความเป็นส่วนตัวมากขึ้นก็ตาม
สุดท้าย วอร์บอยส์แนะนำให้ใช้ระบบ CRM ที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือต่างๆ ได้ดี เพื่อให้นักการตลาดใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าได้เต็มที่ วิธีนี้จะช่วยให้ทำแคมเปญได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ติดตามผลจากโซเชียลมีเดียได้อัตโนมัติ และวัดผลตอบแทนจากการลงทุนในแต่ละแคมเปญโฆษณาได้ชัดเจน
โดยสรุป การสำรวจนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้บริษัทในสิงคโปร์จะใช้การตลาดดิจิทัลกันมาก แต่ยังมีโอกาสพัฒนาในด้านการวัดผลและการใช้เครื่องมือต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การพัฒนาทักษะของทีมการตลาด การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการบูรณาการข้อมูลจากหลายช่องทางจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความสำเร็จในยุคดิจิทัลนี้