บล็อก
ข้อมูลเชิงลึกทางสังคม
สถานการณ์ปัจจุบัน

คนสิงคโปร์สะท้อนความรู้สึกหลังผลการเลือกตั้ง GE2025

เขียนเมื่อ:
May 21, 2025
Rachel Lee
Milieu Insight Insight สงกรานต์ 2025

คนสิงคโปร์สะท้อนความรู้สึกหลังผลการเลือกตั้ง GE2025

สำหรับคนไทยที่ติดตามการเมืองในภูมิภาค อาจคุ้นเคยกับภาพลักษณ์ของสิงคโปร์ว่าเป็นประเทศที่มีเสถียรภาพและพรรคการเมืองหลักครองอำนาจต่อเนื่องมายาวนาน แต่การเลือกตั้งทั่วไปในปี 2025 (GE2025) กลับเผยให้เห็นความรู้สึกหลากหลายของประชาชน ทั้งความหวัง ความเหนื่อยล้า และความคาดหวังต่อการเปลี่ยนแปลง อารมณ์เหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่พรมแดนประเทศหนึ่ง หากแต่สะท้อนแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้นในหลายสังคม รวมถึงไทยด้วย บทสำรวจของ Milieu Insight จึงไม่ใช่แค่รายงานผลเลือกตั้ง แต่คือภาพสะท้อนของ “ความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับการเมือง” ที่อาจพูดถึงเราได้มากกว่าที่คิด

แม้การเลือกตั้งทั่วไปของสิงคโปร์ในปี 2025 (GE2025) จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่สำหรับชาวสิงคโปร์จำนวนไม่น้อย การสนทนาเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งนั้น เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น

ขณะที่ตัวเลขผลโหวตและจำนวนที่นั่งในรัฐสภา อาจครองพื้นที่สื่อหลักในสิงคโปร์ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีอีกสิ่งสิ่งที่ไม่ค่อยได้พูดถึงคือ ความรู้สึกที่แท้จริงของประชาชน พวกเขารู้สึกอย่างไรกับผลการเลือกตั้ง อะไรคือแรงผลักดันที่สำคัญในการตัดสินใจเลือกลงคะแนน และชาวสิงคโปร์มีความเชื่อมั่นต่อรัฐสภาชุดใหม่มากน้อยแค่ไหน?

Milieu Insight ได้สำรวจความคิดเห็นของชาวสิงคโปร์กว่า 1,000 คนหลังเลือกตั้ง เสนอภาพสะท้อนที่หาได้ยากเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึกของประชาชนจากทุกช่วงวัย

มุมมองต่อผลการเลือกตั้ง ภาพสะท้อนความรู้สึกของประชาชน

คำถามแรกคือ “คุณรู้สึกอย่างไรกับผลการเลือกตั้ง GE (General Election - การเลือกตั้งทั่วไป) 2025?” 

เพียง 37% ของผู้ตอบรู้สึกในเชิงบวก โดยผู้สูงวัย (อายุ 55 ปีขึ้นไป) รู้สึกในเชิงบวกมากกว่าเฉลี่ย (44%) ขณะที่คนรุ่นใหม่อายุ 16–24 ปี และ 25–34 ปี กลับรู้สึกในแง่ลบมากกว่า (49% และ 48% ตามลำดับ) โดยรวมแล้ว 41% ระบุว่ารู้สึกเป็นกลาง ไม่โน้มเอียงทางใดทางหนึ่ง

เมื่อเจาะลึกถึงอารมณ์เฉพาะเจาะจง พบว่า

  • 20% รู้สึกยินดี
  • 16% รู้สึกมีความหวัง
  • 22% รู้สึกผิดหวัง
  • 9% ไม่แน่ใจ
  • เพียง 6% เท่านั้นที่รู้สึกมีพลัง

กลุ่มวัย 16–24 ปีโดดเด่นที่สุดในแง่ของความรู้สึกที่หลากหลาย เป็นกลุ่มที่รู้สึกไม่แน่ใจ (17%), หงุดหงิด (11%), เหนื่อยล้า (12%) หรือเฉยชา (14%) มากกว่ากลุ่มอื่น

อะไรคือแรงจูงใจเบื้องหลังการลงคะแนนเสียง?

แม้ GE2025 จะกระตุ้นอารมณ์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง แต่ปัจจัยที่แท้จริงที่มีผลต่อการตัดสินใจก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน

ปัจจัยอันดับหนึ่งที่ผู้ตอบกล่าวถึงคือ นโยบายที่มีเหตุผลและชัดเจน (36%) โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานตอนต้น (46% ในกลุ่ม 16–24 ปี และ 43% ในกลุ่ม 25–34 ปี) ขณะที่ เสถียรภาพท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลก ก็เป็นแรงจูงใจสำคัญ (35%) โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไป (43%)

แรงจูงใจอื่น ๆ ได้แก่

  • ความต้องการให้รัฐสภามีประสิทธิภาพมากขึ้น (34%)
  • ความสามารถของพรรคในการดูแลเขตเลือกตั้ง (32%)
  • ความต้องการให้รัฐสภามีความหลากหลายมากขึ้น (33%) สะท้อนความคาดหวังต่อการถ่วงดุลและความโปร่งใสในระบบการเมือง

น่าสนใจว่า มีเพียง 14% เท่านั้นที่ระบุว่า “การเลือกตั้งครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง” เป็นปัจจัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าผู้นำอาจไม่ได้มีอิทธิพลมากเท่าที่คาด

แม้จำนวนสมาชิกฝ่ายค้านจะยังอยู่ที่ 10 คนเหมือนเดิม แต่มีเพียง 24% ที่บอกว่า “ผลจากฝ่ายค้าน” เป็นปัจจัยสำคัญต่อการตัดสินใจ คะแนนเสียงครั้งนี้จึงดูเหมือนจะขึ้นกับ ข้อเสนอที่จับต้องได้ มากกว่า ภาพลักษณ์หรือการเมืองเชิงสัญลักษณ์

ผลลัพธ์เป็นไปตามคาดหรือไม่?

พรรค People's Action Party (PAP) เพิ่มสัดส่วนคะแนนเสียงจาก 61% ในปี 2020 เป็น 65% ใน GE2025 — แต่ผู้คนรู้สึกแปลกใจแค่ไหน?

  • 61% บอกว่า “คาดไว้แล้ว” ว่าผลจะเป็นเช่นนี้
  • ขณะที่ 1 ใน 3 รู้สึก “ไม่ค่อยคาดหวังไว้”
  • และ 7% ระบุว่า “ไม่คาดหวังเลย”

ในส่วนของจำนวนสมาชิกฝ่ายค้านที่ยังคงเท่าเดิม (10 คน) ผู้ตอบ 63% มองว่า “คาดไว้อยู่แล้ว” แต่ 30% ยังรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย สะท้อนว่าบางคนอาจหวังให้มีการเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้

ที่น่าจับตามองคือ จำนวนพรรคฝ่ายค้านลดลงจาก 2 พรรคในปี 2020 เหลือเพียงพรรคเดียวในปีนี้ ซึ่งมากกว่า 1 ใน 3 (36%) มองว่าเป็นสิ่งที่ “ไม่ค่อยคาดคิด” และ 11% “ไม่คาดหวังเลย” โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกประหลาดใจมากกว่ากลุ่มอื่น

ความพึงพอใจและความกังวลใจ

เมื่อถามถึงความพึงพอใจโดยรวมต่อการเลือกตั้ง GE2025

  • มีเพียง 11% ที่ “พึงพอใจมาก”
  • อีก 24% “พึงพอใจพอประมาณ”
  • แต่กลุ่มใหญ่ที่สุด (42%) ตอบว่า “รู้สึกเป็นกลาง”
  • และ 23% แสดงออกถึงความไม่พอใจในระดับต่าง ๆ

กลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มที่พึงพอใจมากที่สุด (15% พึงพอใจมาก, 30% พึงพอใจพอประมาณ) ในขณะที่กลุ่มอายุ 16–24 ปีเป็นกลุ่มที่รู้สึกพึงพอใจน้อยที่สุด (เพียง 5% ที่ระบุว่าพึงพอใจมาก)

ความเชื่อมั่นต่อรัฐสภาชุดใหม่

แม้รัฐสภาชุดใหม่จะเริ่มทำงานแล้ว แต่ระดับความมั่นใจของประชาชนยังไม่เป็นเอกฉันท์ โดยข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งรู้สึก หวัง แต่ ยังไม่มั่นใจเต็มร้อย ว่าปัญหาสำคัญระดับชาติจะถูกแก้ไขอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพหรือไม่

ความเชื่อมั่นต่อรัฐสภาในการจัดการกับประเด็นต่าง ๆ

  • ค่าครองชีพ เพียง 30% ที่มั่นใจว่าจะมีการบรรเทาค่าครองชีพอย่างได้ผล ถือว่าต่ำที่สุดในทุกประเด็น
  • ที่อยู่อาศัย 34% รู้สึกเชื่อมั่นว่านโยบายจะทำให้บ้านมีราคาจับต้องได้และเข้าถึงง่ายขึ้น
  • ค่ารักษาพยาบาล 48% มั่นใจว่ารัฐจะจัดการกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • การสร้างความปรองดองทางการเมือง 38% มั่นใจว่ารัฐสภาจะสามารถเชื่อมรอยร้าวทางการเมืองได้
  • การรับมือกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ 48% เชื่อมั่นว่าสิงคโปร์จะสามารถจัดการกับความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์ได้

แม้ตัวเลขเหล่านี้จะไม่ได้สะท้อนความไม่ไว้วางใจโดยตรง แต่ก็แสดงให้เห็นว่าประชาชนยังจับตาดูอยู่ และคาดหวังอย่างจริงจังว่า รัฐบาลต้องไม่เพียงแต่รับฟัง แต่ต้องลงมือทำอย่างเป็นรูปธรรม

มองไปข้างหน้า

GE2025 ได้สร้างคลื่นอารมณ์หลากหลาย ตั้งแต่ความหวัง ความผิดหวัง ความภาคภูมิใจ ไปจนถึงความไม่พอใจ โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากช่องว่างทางเจเนอเรชันที่ชัดเจนในมุมมองและความคาดหวังของประชาชน คนรุ่นใหม่ดูเหมือนจะมีความรู้สึกเบื่อหน่าย สับสน และสงสัยต่อโครงสร้างการเมืองปัจจุบัน ในขณะที่ผู้สูงวัยยังคงมีความหวังและความพึงพอใจมากกว่า แต่ท้ายที่สุดแล้ว การตัดสินใจของประชาชนในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับอิทธิพลจากนโยบายที่ดี ความมั่นคง และความสามารถในการดูแลเขตเลือกตั้ง มากกว่าการชูภาพลักษณ์ของพรรคหรือความมีเสน่ห์ของผู้นำ

และที่สำคัญที่สุด ประชาชนกำลังเฝ้าดูอยู่ ความคาดหวังนั้นสูง แต่ความรู้สึกลังเลก็ยังมีอยู่เช่นกัน ว่าผู้มีอำนาจจะสามารถตอบสนองต่อช่วงเวลานี้ได้มากน้อยแค่ไหน สิ่งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการเมืองของสิงคโปร์ในอนาคต

สำหรับผู้อ่านชาวไทย บทสะท้อนจากการเลือกตั้งของสิงคโปร์อาจเป็นมากกว่าแค่เรื่องราวของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค แต่นี่คือสัญญาณที่ชวนให้กลับมามองตัวเราเองเช่นกัน ว่าเรากำลังสร้างระบบที่ “ฟังประชาชน” ได้จริงหรือไม่ ทั้งในแง่ของนโยบาย ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมของคนรุ่นใหม่ ในขณะที่คนสิงคโปร์แสดงออกถึงความหวัง ความเหนื่อยล้า และความไม่แน่ใจหลังเลือกตั้ง คนไทยเองก็กำลังเผชิญความรู้สึกหลากหลายคล้ายกัน คำถามสำคัญอาจไม่ใช่แค่ว่าใครชนะเลือกตั้ง แต่คือ “ประชาชนรู้สึกอย่างไรกับผลลัพธ์นั้น” และ “ระบบที่มีอยู่ตอบสนองต่อเสียงของพวกเขาเพียงพอหรือยัง”

Milieu เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ Online survey และ Market research จากสิงคโปร์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ติดตามกลยุทธ์แบบ Data-driven พร้อมอัปเดตงานวิจัย และ Insight ล่าสุดจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่นี่

Rachel Lee
Author
Rachel Lee

The Content Lead at Milieu Insight. Passionate about translating data into impactful stories, she crafts content that bridges insights and action- making complex research accessible, engaging, and meaningful for audiences across the globe.

พร้อมที่จะยกระดับเกมเชิงลึกของคุณหรือไม่?

Take the first step towards data-driven excellence.
Contact Milieu today.
ขอบคุณเราจะติดต่อกันเร็ว ๆ นี้!
อ๊ะ!มีบางอย่างผิดปกติขณะส่งแบบฟอร์ม
Contact us
__wf_สงวน_มรดก__wf_สงวน_มรดก