การวิจัยด้วยกลุ่มวิจัย (Panel Research) คืออะไร และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไร?

Written on :
April 10, 2025
Milieu Insight Insight สงกรานต์ 2025

ในยุคที่ "ข้อมูล" คือพลังขับเคลื่อนความสำเร็จของธุรกิจ การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญมากกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นบริษัท นักวิจัย หรือผู้กำหนดนโยบาย ล้วนต้องพึ่งพาการวิจัยตลาดในการติดตามเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลง ปรับกลยุทธ์ และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

ในบรรดาเครื่องมือวิจัยที่มีอยู่มากมาย “การวิจัยด้วยกลุ่มวิจัย” (Panel Research) คือหนึ่งในวิธีที่ให้ข้อได้เปรียบเฉพาะตัว เพราะเป็นการติดตามกลุ่มผู้ตอบชุดเดิมในระยะยาว ช่วยให้เข้าใจถึงรูปแบบ ความชอบ และมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา

แต่การวิจัยแบบกลุ่มวิจัยนั้นแตกต่างจากแบบสอบถามทั่วไปอย่างไร? และจะนำไปใช้เจาะลึกพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างไร? คำตอบอยู่ในบทความนี้

Panel Research คืออะไร?

Panel Research คือวิธีการวิจัยตลาดที่อาศัยการติดตามพฤติกรรม ความคิดเห็น และแนวโน้มของกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายและเป็นตัวแทนประชากรในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่แค่การสำรวจเพียงครั้งเดียว แต่เป็นการศึกษา “กลุ่มวิจัย” เดิมซ้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง

แนวทางนี้เปิดโอกาสให้นักวิจัยเก็บข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป การรับรู้ต่อแบรนด์ และสภาพตลาดที่ผันผวนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

โดยทั่วไป ธุรกิจมักร่วมมือกับหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มวิจัย เพื่อเข้าถึงผู้ตอบแบบสอบถามคุณภาพสูงและระบบเก็บข้อมูลที่น่าเชื่อถือ การเก็บข้อมูลจากกลุ่มวิจัยอย่างต่อเนื่องนี้ ช่วยให้ธุรกิจได้รับ Insight ที่นำไปสู่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้อย่างมั่นใจ

ความแตกต่างระหว่าง Panel Research และ Sample

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Panel Research กับวิธีการเก็บตัวอย่างแบบดั้งเดิม (Sampling) แต่ทั้งสองแนวทางมีความแตกต่างที่สำคัญ คือ

Panel Research คือการศึกษากลุ่มผู้ตอบแบบสอบถามชุดเดิมในระยะยาว เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงและแนวโน้มระยะยาวได้อย่างลึกซึ้ง

ขณะที่ Sample คือการคัดเลือกผู้ตอบแบบสอบถามเพียงครั้งเดียวสำหรับการวิจัยเฉพาะหนึ่งโปรเจกต์ โดยไม่มีการติดตามผลหรือมีปฏิสัมพันธ์ต่อเนื่อง

ส่วนการวิจัยแบบดั้งเดิม จะให้เพียงภาพรวมในช่วงเวลานั้น ๆ และข้อมูลจาก Panel Research จะเป็นการวิจัยแบบ Longitudinal ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการ Insight อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

ข้อดีของการทำ Panel Research

มีหลายเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจ นักวิจัย และผู้กำหนดนโยบายเลือกใช้ Panel Research ได้แก่:

  • การมี กลุ่มวิจัย เป็นของตนเองช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนของตลาดเป้าหมายได้อย่างต่อเนื่อง โดยหลายองค์กรเลือกทำงานร่วมกับเอเจนซี่ด้านกลุ่มวิจัยเพื่อช่วยในการคัดเลือกและดูแลผู้เข้าร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ
  • เมื่อใช้กลุ่มผู้ตอบเดิมในการศึกษา ข้อมูลที่ได้จะมีความสม่ำเสมอ ลดความคลาดเคลื่อนที่อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มตัวอย่าง
  • การหาผู้ตอบใหม่ทุกครั้งมีค่าใช้จ่ายสูง การใช้ กลุ่มวิจัย เดิมช่วยลดต้นทุนในการทำวิจัยซ้ำ
  • Panel Research ช่วยให้สามารถติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค แนวโน้มของตลาด และความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างต่อเนื่อง
  • แตกต่างจากการสำรวจออนไลน์แบบครั้งเดียว Panel Research ทำให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูลจากอดีตถึงปัจจุบันได้อย่างเป็นระบบ

ความท้าทายของการทำ Panel Research

แม้ Panel Research จะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีความท้าทายที่ต้องจัดการอย่างรอบคอบ เช่น

  • หากสมาชิกในกลุ่มวิจัยได้รับแบบสอบถามออนไลน์บ่อยเกินไป อาจทำให้ความสนใจลดลง ส่งผลต่อคุณภาพของข้อมูล
  • การดูแลกลุ่มผู้ตอบให้มีส่วนร่วมและตอบสนองอย่างต่อเนื่องจำเป็นต้องมีระบบบริหารจัดการกลุ่มวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
  • ตลอดระยะเวลาของการวิจัย อาจมีบางคนถอนตัวจากการเป็นผู้ตอบ ส่งผลให้เกิดช่องว่างในข้อมูล และอาจทำให้เกิดอคติในกลุ่มข้อมูลที่เหลืออยู่
  • หากไม่ได้ดูแลกลุ่มวิจัยอย่างเหมาะสม ข้อมูลที่ได้อาจไม่สะท้อนความคิดหรือพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแท้จริง

ใครบ้างที่ทำ Panel Research

มีหลายองค์กรที่พึ่งพา Panel Research เพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นการศึกษากลุ่ม B2B หรือผู้บริโภคทั่วไป เช่น

  • บริษัทวิจัยการตลาด: เอเจนซี่เฉพาะทางที่ใช้กลุ่มวิจัยเพื่อช่วยแบรนด์เข้าใจตลาดเป้าหมาย
  • ภาคธุรกิจ: บริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมใช้ Panel Research เพื่อวางตำแหน่งแบรนด์ พัฒนาผลิตภัณฑ์ และเก็บความคิดเห็นจากลูกค้า
  • บุคลากรทางการแพทย์: ใช้กลุ่มวิจัยด้านสุขภาพศึกษาประสบการณ์ผู้ป่วย ปัญหาสุขภาพจิต และประสิทธิภาพของการรักษา
  • สถาบันการศึกษา: มหาวิทยาลัยใช้การศึกษาแบบ Longitudinal เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของสังคมและผลกระทบของนโยบาย
  • หน่วยงานรัฐ: ภาครัฐใช้การสำรวจกลุ่มวิจัยเพื่อติดตามความต้องการของประชาชนและประเมินผลของนโยบาย

การใช้ Panel Research ช่วยให้องค์กรเข้าใจผู้คนได้ลึกขึ้น ติดตามเทรนด์ของตลาด และตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลรองรับในระยะยาว

เมื่อไหร่ควรทำ Panel Research

Panel Research จะเหมาะสมที่สุดเมื่อองค์กรต้องการติดตามการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้ง หรือเก็บข้อมูลเชิง Longitudinal ต่อเนื่อง

  • ธุรกิจที่ต้องการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อ ความภักดีต่อแบรนด์ และความชอบของลูกค้า ควรใช้กลุ่มผู้บริโภคเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง
  • อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว เช่น เทคโนโลยีหรือค้าปลีก สามารถใช้กลุ่มวิจัยเพื่อติดตามแนวโน้มและทัศนคติของลูกค้า
  • ก่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ องค์กรสามารถจัด Focus Group หรือทำแบบสอบถามเชิงปริมาณกับกลุ่มวิจัยเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึก
  • การประเมินแคมเปญโฆษณาโดยศึกษาผู้บริโภคกลุ่มเดียวกันก่อน ระหว่าง และหลังแคมเปญ จะช่วยวัดประสิทธิภาพได้ชัดเจน
  • งานวิจัยด้านสุขภาพ เช่น สุขภาพจิต หรือผลของการรักษาระยะยาว มักใช้กลุ่มวิจัยเฉพาะทาง
  • หน่วยงานภาครัฐและสถาบันการศึกษาสามารถใช้กลุ่มวิจัยเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงในสังคม และประเมินผลของนโยบายในระยะยาว

การเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มทำ Panel Research จะช่วยเพิ่มมูลค่าของข้อมูลที่เก็บได้ และสร้าง Insight ที่เกี่ยวข้องสำหรับการวางแผนในอนาคต

ประเภทของ Panel Research

Panel Research มีหลากหลายรูปแบบ โดยแต่ละประเภทออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การวิจัยที่แตกต่างกัน ด้านล่างนี้คือประเภทของกลุ่มวิจัยที่พบได้บ่อยในอุตสาหกรรมการวิจัยตลาด

กลุ่มวิจัยลูกค้า (Customer Panels)

กลุ่มวิจัยลูกค้าประกอบด้วยผู้บริโภคที่ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้า บริการ และประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ โดยบริษัทใช้กลุ่มวิจัยประเภทนี้เพื่อ

  • ทำความเข้าใจความพึงพอใจและความชอบของลูกค้า
  • ทดสอบแนวคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อนออกสู่ตลาด
  • สร้างความภักดีต่อแบรนด์และเพิ่มการมีส่วนร่วมผ่านแบบสอบถามออนไลน์และ Focus Group
  • ปรับปรุงกลยุทธ์บริการลูกค้าให้ตรงกับความคาดหวังของผู้ใช้จริง

กลุ่มวิจัยตลาด (Market Research Panels)

กลุ่มนี้ประกอบด้วยผู้เข้าร่วมที่ให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวโน้มในอุตสาหกรรม โฆษณา และการวิเคราะห์คู่แข่ง โดยนักวิจัยตลาดมักจะใช้เพื่อจุดประสงค์ดังนี้

  • วิเคราะห์พฤติกรรมของตลาดเป้าหมาย
  • วัดการรับรู้แบรนด์และภาพลักษณ์ในสายตาผู้บริโภค
  • เก็บข้อมูลเชิงปริมาณจากตลาด B2B และ B2C เพื่อใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจ

กลุ่มวิจัยทางการแพทย์ (Medical Panels)

กลุ่มวิจัยนี้เกี่ยวข้องกับบุคลากรทางการแพทย์ ผู้ป่วย หรือผู้ดูแล ซึ่งเข้าร่วมในการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและการรักษา โดยใช้เพื่อจุดประสงค์ดังนี้

  • ศึกษาสุขภาพจิตและวิธีการรักษา
  • ติดตามผลลัพธ์ระยะยาวของผู้ป่วยผ่านการศึกษาแบบ Longitudinal
  • ประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการรักษา หรือยารูปแบบใหม่

กลุ่มวิจัยออนไลน์ (Online Panels)

กลุ่มนี้ประกอบด้วยผู้ตอบแบบสอบถามออนไลน์ที่เข้าร่วมการวิจัยตลาดผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล โดยมีประโยชน์ดังนี้

  • เก็บข้อมูลได้รวดเร็ว เพื่อใช้ตัดสินใจในแบบเรียลไทม์
  • มีต้นทุนต่ำเมื่อเทียบกับการสัมภาษณ์เชิงลึกแบบเดิม
  • เข้าถึงกลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายจากหลายภูมิหลัง

กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ (Professional Panels)

กลุ่มนี้รวมถึงผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร และผู้มีประสบการณ์เฉพาะในแต่ละอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถให้มุมมองเชิงลึกได้ โดยใช้เพื่อจุดประสงค์ดังนี้

  • เข้าใจตลาดเฉพาะทาง (Niche Market) ได้อย่างแม่นยำ
  • ปรับกลยุทธ์การวางตำแหน่งแบรนด์ตามมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ
  • ศึกษาแนวโน้มด้านภาวะผู้นำ การนำเทคโนโลยีมาใช้ และกลยุทธ์ธุรกิจ

กลุ่มซัพพลายเออร์ (Supplier Panels)

กลุ่มนี้ประกอบด้วยผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และคู่ค้าทางธุรกิจ ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับโซ่คุณค่าและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน โดยใช้เพื่อจุดประสงค์ดังนี้

  • ปรับกลยุทธ์ซัพพลายเชนให้เหมาะสมและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดซื้อ
  • ประเมินความสามารถและความน่าเชื่อถือของซัพพลายเออร์ในระยะยาว
  • ค้นหาความเสี่ยงและโอกาสในกระบวนการจัดหา

Panel Research ในแต่ละประเภทต่างมีจุดแข็งเฉพาะตัว ที่ช่วยให้องค์กรเข้าใจตลาด ติดตามเทรนด์ และตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ

วิธีการดำเนินการวิจัยด้วยกลุ่มวิจัย

การวิจัยด้วยกลุ่มวิจัยที่ให้ผลลัพธ์คุณภาพสูง จำเป็นต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ ตั้งแต่ขั้นตอนการสรรหา ไปจนถึงการเก็บข้อมูล องค์กรสามารถเลือกดำเนินการวิจัยภายในเอง หรือจ้างผู้ให้บริการภายนอก ขึ้นอยู่กับงบประมาณ ความเชี่ยวชาญ และเป้าหมายของการวิจัย

การวิจัยภายในองค์กร (In-house research)

การจัดการกลุ่มวิจัยภายในองค์กรช่วยให้องค์กรควบคุมกระบวนการวิจัยได้อย่างใกล้ชิด และมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่ได้สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจโดยตรง หากองค์กรเลือกดำเนินการวิจัยภายใน ควรพิจารณาขั้นตอนต่อไปนี้

  • กำหนดคำถามวิจัยและวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน เพื่อระบุขอบเขตของการศึกษา
  • คัดเลือกผู้เข้าร่วมกลุ่มวิจัยจากกลุ่มเป้าหมาย โดยพิจารณาจากข้อมูลประชากร พฤติกรรม หรือความเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม
  • ใช้เครื่องมือบริหารจัดการกลุ่มวิจัยเพื่อติดตามการมีส่วนร่วมและอัตโนมัติการจัดส่งแบบสอบถาม
  • จัดเตรียมคำแนะนำและแบบสอบถามให้มีโครงสร้างชัดเจน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพ
  • ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อดึง Insight ที่มีความหมาย และเพิ่มความน่าเชื่อถือของผลการวิจัย
  • กระตุ้นให้ผู้ตอบแบบสอบถามยังคงมีส่วนร่วมผ่านสิ่งจูงใจ การสื่อสารสม่ำเสมอ และการติดตามผล

แม้ว่าการวิจัยภายในจะให้ความเข้าใจลึกซึ้งและควบคุมได้มากกว่า แต่ก็ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญด้านการบริหารกลุ่มวิจัย การควบคุมคุณภาพข้อมูล และการดูแลรักษาในระยะยาว

การจ้างผู้ให้บริการภายนอก (Outsourced providers)

องค์กรจำนวนมากเลือกใช้บริการจากบริษัทวิจัยตลาดเพื่อดำเนินการวิจัยแทน โดยผู้ให้บริการภายนอกสามารถมอบข้อได้เปรียบดังนี้

  • เข้าถึงกลุ่มวิจัยออนไลน์ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งครอบคลุมผู้เข้าร่วมที่หลากหลายทั้งในแง่อุตสาหกรรมและข้อมูลประชากร
  • มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบแบบสอบถามและเทคนิคการเก็บข้อมูลที่ถูกต้องและน่าเชื่อถือ
  • ลดภาระขององค์กรในการสรรหาและดูแลกลุ่มวิจัยระยะยาว
  • ใช้สถิติขั้นสูงและ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ขยายหรือปรับแต่งโครงการวิจัยได้โดยไม่ต้องรับภาระในการดูแลกลุ่มวิจัยเอง

การจ้างภายนอกช่วยให้องค์กรมุ่งเน้นไปที่การตีความผลลัพธ์และการนำ Insight ไปใช้ มากกว่าการจัดการด้านเทคนิคของการเก็บข้อมูล

ทั้งการวิจัยภายในและการจ้างภายนอกต่างมีข้อดีที่แตกต่างกัน การเลือกแนวทางที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับทรัพยากร ความชำนาญ และระดับความลึกของการวิเคราะห์ที่องค์กรต้องการสำหรับการวิจัยในอนาคต

สรุป

การวิจัยด้วยกลุ่มวิจัยถือเป็นเครื่องมือทรงคุณค่าสำหรับทั้งภาคธุรกิจและนักวิจัยที่ต้องการติดตามแนวโน้ม เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค และตัดสินใจเชิงกลยุทธ์บนพื้นฐานของข้อมูล องค์กรสามารถดึง Insight ที่มีคุณค่าออกมาได้ หากมีการคัดเลือกและบริหารจัดการกลุ่มวิจัยอย่างเหมาะสม ใช้เทคนิคการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง พร้อมรับมือกับความท้าทายอย่างรอบด้าน ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จทางกลยุทธ์ได้อย่างมั่นคงในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

Milieu เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ Online survey และ Market research จากสิงคโปร์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคนิคการทำ Sampling ที่มีประสิทธิภาพ ติดตาม กลยุทธ์แบบ Data-driven พร้อมอัปเดตงานวิจัย และ Insight ล่าสุดจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่นี่

Rachel Lee
Author
Rachel Lee

The Content Lead at Milieu Insight. Passionate about translating data into impactful stories, she crafts content that bridges insights and action- making complex research accessible, engaging, and meaningful for audiences across the globe.

พร้อมที่จะยกระดับเกมเชิงลึกของคุณหรือไม่?

Take the first step towards data-driven excellence.
Contact Milieu today.
ขอบคุณเราจะติดต่อกันเร็ว ๆ นี้!
อ๊ะ!มีบางอย่างผิดปกติขณะส่งแบบฟอร์ม
Contact us
__wf_สงวน_มรดก__wf_สงวน_มรดก