บล็อก
อุตสาหกรรม
วิจัย 101

ระเบียบวิธีการสำรวจ สำหรับแบบสอบถามออนไลน์

เขียนเมื่อ:
April 10, 2025
Rachel Lee
Milieu Insight Insight สงกรานต์ 2025

ลองจินตนาการถึงการค้นหาความคิดเห็นของสาธารณชน ติดตามเทรนด์ผู้บริโภค หรือประเมินความพึงพอใจของลูกค้า เพียงแค่คลิกเดียว แบบสอบถามออนไลน์ได้เปลี่ยนโฉมหน้าการเก็บข้อมูลในโลกยุคดิจิทัล ทำให้การวิจัยเป็นเรื่องที่รวดเร็ว เข้าถึงง่าย และคุ้มค่ากว่าเดิม อย่างไรก็ตาม พลังที่แท้จริงของแบบสอบถามออนไลน์ไม่ได้อยู่แค่ที่จำนวนผู้เข้าถึง แต่อยู่ที่ “ระเบียบวิธี” ที่ใช้ หากแบบสอบถามมีโครงสร้างที่ดี ก็จะช่วยให้ข้อมูลที่ได้มีความแม่นยำ น่าเชื่อถือ และตีความได้อย่างมีความหมาย ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบคำถามไปจนถึงการเลือกวิธีการสำรวจที่เหมาะสม ทุกขั้นตอนล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้าง Insight ที่นำไปสู่การตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูล

ระเบียบวิธีการสำรวจ (Survey Methodology) คืออะไร

ระเบียบวิธีการสำรวจ หมายถึงกระบวนการอย่างเป็นระบบในการออกแบบ ดำเนินการ และวิเคราะห์แบบสอบถาม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้และมีความหมายเชิงลึก โดยกระบวนการนี้ครอบคลุมตั้งแต่การเลือกวิธีการสำรวจที่เหมาะสม การวางโครงสร้างคำถาม ไปจนถึงการควบคุมกระบวนการเก็บข้อมูลให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและตรงกับวัตถุประสงค์การวิจัย

สำหรับแบบสอบถามออนไลน์ ระเบียบวิธีถือว่าสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก เพราะผู้ตอบแบบสอบถามจะทำแบบฟอร์มจากระยะไกล นักวิจัยจึงต้องออกแบบทุกองค์ประกอบอย่างรอบคอบ ทั้งการใช้ถ้อยคำ การจัดหน้า ไปจนถึงลำดับคำถาม เพื่อรักษาความสนใจของผู้ตอบ และเพิ่มโอกาสในการได้ข้อมูลที่ถูกต้องแม่นยำ

ไม่ว่าจะใช้ในงานวิจัยทางสังคม การสำรวจตลาด หรือการเก็บฟีดแบ็กจากลูกค้า ระเบียบวิธีที่แข็งแรงจะช่วยให้ข้อมูลที่ได้สะท้อนภาพรวมของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง และนำไปสู่การตัดสินใจที่มีข้อมูลรองรับ

นอกจากนี้ บริษัทที่ให้การสำรวจผ่านกลุ่มวิจัยจำนวนมากก็มักใช้ระเบียบวิธีที่ชัดเจนและเป็นระบบ เพื่อรักษาคุณภาพของข้อมูลและส่งมอบ Insight ที่มีคุณค่าให้กับองค์กรต่าง ๆ

ทำไมเราจึงต้องมีระเบียบวิธีการสำรวจ

การมีระเบียบวิธีการสำรวจที่ชัดเจนและเป็นระบบ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและนำไปใช้จริงได้ เพราะหากไม่มีกรอบการทำงานที่รัดกุม งานวิจัยอาจนำไปสู่ข้อสรุปที่คลาดเคลื่อน และไม่สามารถตอบโจทย์เป้าหมายที่ต้องการได้อย่างแท้จริง

  • เพิ่มความแม่นยำ: การวางแผนอย่างรอบคอบช่วยลดโอกาสผิดพลาด ทำให้เครื่องมือสำรวจเก็บข้อมูลได้อย่างถูกต้อง
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ: ระเบียบวิธีที่ดีจะช่วยให้ผลลัพธ์มีความสม่ำเสมอ หากมีการทำซ้ำในอนาคต
  • สะท้อนความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมาย: การออกแบบแบบสอบถามที่เหมาะสมจะช่วยให้ข้อมูลที่ได้สะท้อนภาพรวมของประชากร หรือกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนได้จริง
  • ลดอคติในการวิจัย: กรอบระเบียบวิธีที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันคำถามที่ชี้นำหรือบิดเบือน และทำให้การเก็บข้อมูลเป็นไปอย่างเป็นกลาง
  • ง่ายต่อการวิเคราะห์: เมื่อมีแผนงานที่ชัดเจน การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยเครื่องมือทางสถิติก็จะแม่นยำและเป็นระบบยิ่งขึ้น

สำหรับธุรกิจ นักวิจัย และผู้กำหนดนโยบาย การมีระเบียบวิธีที่แข็งแรงคือหัวใจสำคัญของการตัดสินใจอย่างมีข้อมูลรองรับและน่าเชื่อถือ

ประเภทของระเบียบวิธีการสำรวจ

ระเบียบวิธีการสำรวจสามารถออกแบบได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับประเภทของข้อมูลที่ต้องการ และเทคนิคการวิจัยที่ใช้ในการเก็บข้อมูล

เชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ

การวิจัยเชิงสำรวจมักแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก

  • ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ มุ่งเน้นการเก็บข้อมูลในรูปแบบตัวเลข เช่น การให้คะแนน การเลือกตอบแบบปรนัย และการเปรียบเทียบเชิงสถิติ วิธีนี้เหมาะกับการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การสำรวจประสบการณ์ลูกค้า หรือการสำรวจความคิดเห็นสาธารณะ
  • ระเบียบวิธีเชิงคุณภาพ เน้นการวิเคราะห์คำตอบแบบปลายเปิด เพื่อเข้าใจความคิด ความรู้สึก หรือประสบการณ์ของผู้ตอบ เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม หรือการให้บรรยายเป็นข้อความ มักใช้ในศาสตร์สังคมศาสตร์ ซึ่งต้องการเข้าใจแรงจูงใจและทัศนคติของผู้คนอย่างลึกซึ้ง

แบบมีโครงสร้างและไม่มีโครงสร้าง

อีกหนึ่งวิธีในการจำแนกแบบสอบถาม คือดูจากระดับความมีโครงสร้าง

  • แบบสอบถามที่มีโครงสร้าง (Structured surveys): มีคำถามและตัวเลือกคำตอบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ทำให้การเก็บข้อมูลมีความสม่ำเสมอ ตัวอย่างเช่น แบบสอบถามวัดความพึงพอใจของลูกค้า (CSAT) ที่มักใช้สเกลให้คะแนนและคำถามมาตรฐาน
  • แบบสอบถามที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured surveys): เปิดโอกาสให้ผู้ตอบแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระโดยไม่มีตัวเลือกตายตัว มักใช้ในแบบสอบถามที่ผู้ตอบกรอกเอง หรือในการสนทนากลุ่ม ที่ต้องการความยืดหยุ่นเพื่อเจาะลึกประเด็นต่าง ๆ

คำถามปลายเปิดหรือปลายปิด

คำถามในแบบสำรวจยังสามารถจำแนกได้ตามรูปแบบการตอบ

  • คำถามปลายเปิด (Open-ended): เปิดให้ผู้ตอบเขียนคำตอบด้วยตนเอง ซึ่งให้ข้อมูลเชิงลึกแต่ต้องใช้เวลาวิเคราะห์มาก เหมาะกับการวิจัยเชิงสำรวจแบบคุณภาพหรือการสำรวจในขั้นเริ่มต้น
  • คำถามปลายปิด (Close-ended): มีตัวเลือกคำตอบกำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น แบบปรนัย สเกลไลเคิร์ต หรือคำถามแบบใช่/ไม่ใช่ ข้อดีคือสามารถนำไปวิเคราะห์ด้วยสถิติได้ง่าย

การเลือกใช้ระเบียบวิธีใด ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการวิจัย ลักษณะของกลุ่มเป้าหมาย และระดับความลึกของข้อมูลที่ต้องการ โดยทั่วไปมักใช้การผสมผสานระหว่างหลายวิธีเพื่อให้ได้ข้อมูลทั้งเชิงลึกและสามารถขยายผลได้

วิธีการสำรวจในแบบสอบถามออนไลน์

แบบสอบถามออนไลน์สามารถใช้วิธีการสำรวจได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการวิจัย กลุ่มเป้าหมาย และประเภทของข้อมูลที่ต้องการเก็บ

เชิงคุณภาพ (Qualitative)

วิธีการเชิงคุณภาพมุ่งเน้นการทำความเข้าใจพฤติกรรม ทัศนคติ และมุมมองของมนุษย์ในเชิงลึก โดยแตกต่างจากการวิจัยเชิงปริมาณที่เน้นข้อมูลตัวเลข การวิจัยเชิงคุณภาพจะเก็บข้อมูลผ่านคำตอบแบบปลายเปิดที่มีรายละเอียดมาก ตัวอย่างของวิธีการเชิงคุณภาพที่มักใช้ในแบบสอบถามออนไลน์ ได้แก่:

  • คำถามปลายเปิด: เปิดโอกาสให้ผู้ตอบแสดงความคิดในแบบของตนเองอย่างอิสระ
  • การสนทนากลุ่ม (Focus Groups): ดำเนินการผ่านวิดีโอคอล เพื่อเจาะลึกประเด็นเฉพาะ
  • การสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interviews): พูดคุยแบบตัวต่อตัว โดยนักวิจัยสามารถถามคำถามเพิ่มเติมตามคำตอบของผู้ให้สัมภาษณ์ได้

การประยุกต์ใช้ในด้านสุขภาพและสังคมศาสตร์

การวิจัยเชิงสำรวจมีบทบาทสำคัญในทั้งสังคมศาสตร์และวงการแพทย์ ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจในความคิดเห็นของประชาชนและรูปแบบพฤติกรรม

  • ด้านสุขภาพ: แบบสอบถามออนไลน์ช่วยประเมินความพึงพอใจของผู้ป่วย ติดตามแนวโน้มของโรค และเก็บความคิดเห็นเกี่ยวกับการรักษา เช่น แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้รับบริการ (CSAT) ที่โรงพยาบาลใช้ในการประเมินประสบการณ์ของผู้ป่วย
  • ด้านสังคมศาสตร์: การศึกษาในสาขาจิตวิทยา สังคมวิทยา และรัฐศาสตร์ มักใช้เครื่องมือการสำรวจเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมทางสังคม ผลกระทบของนโยบาย และแนวโน้มประชากร
  • การวิจัยตลาด: บริษัทต่าง ๆ ใช้แบบสอบถามออนไลน์เพื่อศึกษาพฤติกรรม ความชอบ และเทรนด์ของผู้บริโภค ซึ่งมีผลต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ทางการตลาด โดยกลุ่มวิจัยมีบทบาทสำคัญในการคัดเลือกผู้ตอบแบบสอบถามที่หลากหลายเพื่อให้ได้กลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนที่แท้จริง

ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือของการวัดผล

เพื่อให้ผลลัพธ์ของการสำรวจน่าเชื่อถือ จำเป็นต้องตรวจสอบว่าแบบสอบถามสามารถวัดสิ่งที่ต้องการวัดได้จริงหรือไม่ โดยพิจารณาในประเด็นหลัก ๆ ดังนี้

  • ความเที่ยงตรง (Validity): ตรวจสอบว่าแบบสอบถามสามารถเก็บข้อมูลที่ต้องการศึกษาได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำหรือไม่
  • ความสม่ำเสมอ (Reliability): ตรวจสอบว่าคำตอบมีความสอดคล้องกันเมื่อทำการสำรวจซ้ำในเวลาหรือกลุ่มตัวอย่างที่ต่างกัน
  • แหล่งที่มาของความคลาดเคลื่อน: ลดปัจจัยที่อาจทำให้ข้อมูลเบี่ยงเบน เช่น คำถามที่คลุมเครือ หรือการสุ่มตัวอย่างที่ไม่เป็นกลาง

ระเบียบวิธีที่แข็งแรงจะช่วยให้ได้ข้อมูลที่มีทั้งความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ ซึ่งนำไปสู่ข้อสรุปที่ไว้วางใจได้

องค์ประกอบสำคัญของ Survey Methodology

การวางแผน วิธีวิจัยเชิงสำรวจ (survey methodology) อย่างรอบคอบ จำเป็นต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหลายด้านที่ส่งผลต่อคุณภาพของการเก็บข้อมูลและการวิเคราะห์ผล โดยภาพรวมจะมีองค์ประกอบต่าง ๆ 9 ด้าน ดังนี้

1. บริบทของการศึกษา (Background)

ก่อนเริ่มการวิจัย นักวิจัยจำเป็นต้องเข้าใจบริบทของการศึกษา โดยประกอบด้วย

  • การระบุช่องว่างของงานวิจัยที่มีอยู่
  • การทบทวนงานวิจัยหรือแบบสำรวจในอดีต
  • การกำหนดว่า ข้อมูลใหม่จะช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ หรือใช้ในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์อย่างไร

2. เป้าหมายของการสำรวจ (Goals)

การตั้งวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนจะช่วยให้การออกแบบแบบสอบถามสอดคล้องกับเป้าหมายที่ต้องการ เช่น

  • ระบุสิ่งที่ต้องการวัดหรือค้นหา
  • กำหนดว่าจะใช้ข้อมูลเชิงปริมาณ, เชิงคุณภาพ หรือผสมผสาน
  • วางกรอบในการออกแบบคำถามให้ตรงจุด

3. กลุ่มเป้าหมาย (Target Population)

กลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนที่ต้องการเก็บข้อมูลความคิดเห็นหรือพฤติกรรม โดยต้องพิจารณา

  • การคัดเลือกตัวอย่างที่เป็นตัวแทน (Representative Sample)
  • การกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ว่าต้องการกลุ่มใหญ่หรือกลุ่มเฉพาะ
  • การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะในกรณีเป็นแบบสอบถามออนไลน์ (self-administered)

4. เนื้อหาแบบสอบถาม (Content)

โครงสร้างและความชัดเจนของแบบสอบถามส่งผลต่อคุณภาพของคำตอบ โดยควร

  • ใช้คำถามที่เข้าใจง่าย ตรงประเด็น
  • ผสมคำถามแบบปลายเปิดและแบบตัวเลือก
  • ตรวจสอบว่าคำถามสอดคล้องกับประสบการณ์ของผู้ตอบ

5. ช่วงเวลาในการเก็บข้อมูล (Timing)

ช่วงเวลาในการส่งแบบสอบถามมีผลต่ออัตราการตอบกลับ เช่น:

  • หลีกเลี่ยงช่วงวันหยุดหรือเวลาทำงานที่ยุ่ง
  • ส่ง Reminder เพื่อกระตุ้นให้ตอบแบบสอบถาม
  • ทำแบบสอบถามให้สั้นกระชับ เพื่อรักษาความสนใจของผู้ตอบ

6. วิธีการเก็บข้อมูล (Data Collection)

การเลือกวิธีเก็บข้อมูลที่เหมาะสมมีความสำคัญ เช่น

  • แบบสอบถามออนไลน์ (Online Surveys): สะดวก ประหยัด และแพร่หลายที่สุด
  • โทรศัพท์ (Telephone Surveys): เหมาะกับกลุ่มที่อาจไม่สะดวกใช้อินเทอร์เน็ต
  • จดหมาย (Mail Surveys): ยังใช้ในงานวิจัยบางประเภท แม้จะไม่แพร่หลาย

7. ทรัพยากรและการจัดการ (Resources & Logistics)

การวางแผนอย่างเป็นระบบช่วยให้การดำเนินงานราบรื่น

  • เครื่องมือเก็บข้อมูล เช่น แพลตฟอร์มออนไลน์หรือซอฟต์แวร์เฉพาะ
  • การเตรียมคำถามเพิ่มเติมเพื่อเจาะลึกข้อมูล
  • การสนับสนุนทางเทคนิค หากผู้ตอบมีปัญหาในการใช้งาน

8. การประมวลผล วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูล (Data Processing & Analysis)

หลังจากได้ข้อมูลแล้ว ต้องนำมาวิเคราะห์อย่างเหมาะสม

  • ตรวจสอบและล้างข้อมูลให้เรียบร้อยก่อนวิเคราะห์
  • ใช้เครื่องมือสถิติเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก
  • สื่อสารผลลัพธ์ผ่านรายงาน แผนภูมิ หรือแดชบอร์ด

9. จริยธรรมในการวิจัย (Ethical Considerations)

การรักษาจริยธรรมในการวิจัยเป็นเรื่องสำคัญ ได้แก่

  • ขอความยินยอมและรักษาความลับของผู้เข้าร่วม
  • หลีกเลี่ยงคำถามชี้นำหรือบิดเบือน
  • รายงานผลอย่างโปร่งใสและไม่บิดเบือนข้อมูล

การพิจารณาองค์ประกอบเหล่านี้อย่างรอบคอบ จะช่วยให้นักวิจัยสามารถออกแบบ วิธีวิจัยเชิงสำรวจ (survey methodology) ที่แข็งแรง น่าเชื่อถือ และนำไปสู่ ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณภาพสูงและสามารถนำไปใช้ได้จริง

บทสรุป

วิธีวิจัยเชิงสำรวจที่มีโครงสร้างชัดเจน คือรากฐานของการทำแบบสอบถามออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมาย ไปจนถึงการวิเคราะห์ข้อมูล ดำเนินไปอย่างแม่นยำ เมื่อนักวิจัยวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งในเรื่องของ วิธีการสำรวจ และ การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสม ก็จะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าเชื่อถือ มีคุณค่า และนำไปใช้ได้จริงในเชิงกลยุทธ์

Milieu เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์ Online survey และ Market research จากสิงคโปร์ ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ด้วยเทคนิคการทำ Sampling ที่มีประสิทธิภาพ ติดตาม กลยุทธ์แบบ Data-driven พร้อมอัปเดตงานวิจัย และ Insight ล่าสุดจากทีมผู้เชี่ยวชาญของเราได้เลยที่นี่

Rachel Lee
Author
Rachel Lee

The Content Lead at Milieu Insight. Passionate about translating data into impactful stories, she crafts content that bridges insights and action- making complex research accessible, engaging, and meaningful for audiences across the globe.

พร้อมที่จะยกระดับเกมเชิงลึกของคุณหรือไม่?

Take the first step towards data-driven excellence.
Contact Milieu today.
ขอบคุณเราจะติดต่อกันเร็ว ๆ นี้!
อ๊ะ!มีบางอย่างผิดปกติขณะส่งแบบฟอร์ม
Contact us
__wf_สงวน_มรดก__wf_สงวน_มรดก